1633405 ห้องสมุดประชาชน
Public Library

2 (2 - 0)

ผู้สอน : รศ. จุมพจน์ วนิชกุล
โปรแกรมวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
สถาบันราชภัฏกาญจนบุรี
อ. เมือง กาญจนบุรี 71000
chumpot@hotmail.com

การเตรียมหนังสือ

การเตรียมหนังสือ เป็นส่วนหนึ่งของงานเทคนิคห้องสมุด มีหน้าที่เตรียมหนังสือออกไปให้กับฝ่ายบริการ การเตรียมหนังสือ มีหลักการที่สำคัญ คือ เตรียมอย่างถูกต้องและ รวดเร็ว

ลำดับขั้นตอนในการเตรียมหนังสือ

    1. ตรวจสอบความเรียบร้อย
    2. ประทับตรา
    3. ลงทะเบียน
    4. จัดหมู่ และการร่างบัตรรายการ
    5. พิมพ์บัตรรายการ
    6. พิมพ์ บัตรซอง และบัตรคู่ซอง
    7. ปิดซอง พร้อมบัตรซอง และบัตรกำหนดส่ง
    8. เขียนสัน ติดสัน
    9. ทายากันแมลง
    10. ตรวจสอบความเรียบร้อย
    11. เรียงบัตรรายการเข้าตู้
    12. นำหนังสือใหม่ขึ้นชั้น

ขั้นตอนการปฎิบัติงาน

ตรวจสอบความเรียบร้อย

เมื่อหนังสือถูกส่งมายังฝ่ายจัดเตรียม บรรณารักษ์จะต้องตรวจสอบความเรียบร้อย ดังต่อไปนี้คือ

    1. หนังสือครบตามใบส่งของ
    2. หนังสืออยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด อยู่ครบทุกหน้า ไม่กลับหัวกลับหาง
    3. หากมีคำผิด และใบแก้คำผิดอยู่ จะต้องแก้คำผิด ลงในหนังสือเสียก่อน แต่ถ้าผิดมากไม่สามารถแก้ได้หมด ให้ปะติดไว้กับหนังสือก่อนหน้าปกใน
    4. ถ้าสามารถซ่อมได้เอง ไม่จำเป็นต้องส่งคืนผู้ขาย เช่น ถ่ายเอกสารซ่อม

ประทับตรา

คราที่จะใช้ประทับ ควรเป็นตรายางที่มีขนาดเหมาะสม แล้วแต่ห้องสมุดแต่ละแห่งจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้ขนาดไหน ให้เหมาะสมกับหนังสือที่มีอยู่ในห้องสมุด การประทับตราควรจะต้องกระทำกับหนังสือทุกเล่ม และควรมีเกณฑ์ในการประทับตรา ในหน้าต่าง ๆ ของหนังสือ ดังนี้

    1. ปกหน้า (สำหรับหนังสือที่ไม่มีหน้าปกใน)
    2. หน้าปกใน
    3. หน้าลับเฉพาะ (บรรณารักษ์ควรกำหนดเลขหน้าเป็นการเฉพาะของห้องสมุด)
    4. ด้านหลังหน้าปกใน
    5. หน้าสุดท้ายของหนังสือ

    การประทับตราของห้องสมุด มักประทับตรากลางหน้ากระดาษ ด้านบนของหนังสือ ถ้าเป็นตรายางสี่เหลี่ยมผืนผ้า มักประทับตรากลางหน้ากระดาษด้านล่างของหนังสือ

    ในการประทับตราหนังสือ สำหรับตราทุกประเภท มีหลักที่ควรคำนึงถึง คือ
    1. หลีกเลี่ยงการประทับตัวอักษร หรือข้อความ
    2. ควรประทับไม่ให้กลับหัว กลับหาง และมีความสมดุลย์กัน
    3. ควรประทับให้ชัดเจน

ลงทะเบียนหนังสือ

การลทะเบียนหนังสือ เป็นการทำบัญชีพัสดุห้องสมุดอย่างหนึ่ง รายละเอียดอุปกรณ์ที่ใช้ในการลงทะเบียน มีดังนี้

    1. สมุดทะเบียน
    2. เครื่องประทับตัวเลข

    1. สมุดลงทะเบียน สามารถทำเองได้ไม่ยาก โดยทั่วไปใช้สมุดปกแข็งขนาดใหญ่ มาตีตารางตามรายการที่ต้องการ เนื่องจากรายการมีหลายช่อง อาจมีความต้องการ ใช้สมุดต่อกัน 2 หน้า รายการในตารางมี วัน, เดือน, ปี เลขทะเบียน ผู้แต่ง ชื่อเรื่อง สำนักพิมพ์ ปีที่พิมพ์ ราคา หมายเหตุ
    2. เครื่องประทับตัวเลข เลขทะเบียน นั้น อาจเขียนด้วยมือได้ แต่ถ้าใช้เตรื่อง ประทับตัวเลขแล้วจะช่วยให้เรียบร้อย และชัดเจนกว่าการเขียนด้วยมือ

    วิธีการลงทะเบียน มีวิธีปฎิบัติดังนี้
    1. การลงทะเบียน รายการแต่ละรายการให้ลงบรรทัดละ 1 เล่ม ถ้ารายการยาวมากพยายามเขียนให้จำกัดในบรรทัดเดียว ซึ่งอาจใช้วิธีการเขียนตัวเล็ก ๆ 2 แถว หรือย่อรายการและใช้เครื่องหมาย...
    2. เลขทะเบียน หนังสือทุกเล่มจะต้องมีเลขทะเบียนของตนเองจะซ้ำกันไม่ได้ แม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน จะเรียงจากเลขน้อยไปหามากจาก ฉ.1, 2, 3, 4 ฯลฯ ตามลำดับ ดังนั้น ก่อนลงทะเบียน จึงควรจัดลำดับหนังสือเสียก่อน โดยเฉพาะหนังสือที่มีหลายเล่มจบ ควรลงทะเบียนตามลำดับจาก เล่ม 1, 2, 3, 4 ฯลฯ
    3. ตำแหน่งที่ประทับเลขทะเบียน นำหมายเลขทะเบียนของหนังสือจากสมุดทะเบียนมาประทับลงไว้ในหนังสือเล่มนั้น อีกทีหนึ่ง ตราทะเบียนที่ประทับไว้ ด้านหลังของหน้าปกใน และหน้าลับเฉพาะ
    4. การลงรายการชื่อผู้แต่ง ควรกำหนดให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การลงชื่อผู้แต่งในบัตรรายการ เช่น

      ก. การลงชื่อสำหรับคนไทย ตัดคำนำหน้าชื่อ เช่น นาย นางสาว อาจารย์ ฯลฯ และอักษรแสดงคุณวุฒิท้ายชื่อออก ส่วนชาวต่างประเทศใช้นามสกุล ขึ้นต้นคั่นด้วย (,) และตามด้วยชื่อ ต้นและกลาง (ถ้ามี)
      ข. คำที่แสดงฐานันดรศักดิ์ แห่งเชื้อพระวงศ์ เช่น ม.จ., ม.ร.ว. และคำแสดงบรรดาศักดิ์ เช่น พระยา, หลวง ให้ลงตามหลังชื่อและนามสกุล โดยคั่นด้วย (,) เช่น คึกฤทธิ์ ปราโมช, ม.ร.ว.
      ค. ชื่อหน่วยราชการ องค์การ สมาคม ฯลฯ ใช้ชื่อเฉพาะขึ้นต้น คั่นด้วย (,) และตามด้วยชื่อสามัญ เช่น การศึกษานอกโรงเรียน, กรม
      ง. นามแฝง ให้ลงนามจริงถ้าทราบ และใส่ชื่อนามแฝงตามหลัง ไว้ในลงเล็บ เช่น สมนึก สูตรบุตร (บุษยมาส) เป็นต้น

    5. ชื่อหนังสือ ลงชื่อหนังสือที่ปรากฏในหน้าปกใน
    6.สำนักพิมพ์ ให้ลงชื่อเฉพาะ ชื่อของสำนักพิมพ์ หรือบริษัทห้างร้านผู้พิมพ์จำหน่ายไม่ต้องนำหน้าด้วยคำว่า สำนักพิมพ์ หรือ บริษัท ถ้าไม่ปรากฎ ชื่อสำนักพิมพ์ ให้ใช้ชื่อ โรงพิมพ์แทน
    7. ปีที่พิมพ์ ลงปีที่พิมพ์ สำหรับหนังสือภาษาอังกฤษ ลงปีลิขสิทธิ์ (Copyright) ใช้นำหน้าตัวเลข เช่น C.1985
    8. ราคา คือราคาของหนังสือต่อ 1 เล่ม ให้ลงราคาเต็ม
    9. วันลงทะเบียน ใส่วันที่ ลงทะเบียนของหนังสือ
    10. หมายเหตุ มีไว้เพื่อแจ้งรายการเพิ่มเติม เช่น แหล่งที่มาว่าซื้อด้วยเงินบำรุงการศึกษา หรือใครบริจาคให้ เหตุที่คัดหนังสือออก

จัดหมู่และการร่างบัตรรายการ

ข้อปฎิบัติก่อนการร่างบัตรรายการ (การเขียนสลิปบัตรรายการ)

    ประการที่ 1. ควรตรวจเช็คบัตรรายการของห้องสมุดก่อน ว่าเคยซื้อหนังสือเล่มนี้เข้าห้องสมุดหรือยัง ถ้ามีแล้วก็ดึงบัตรแจ้งหมู่ มาเติมเลขทะเบียนเพิ่มไม่จำเป็นต้องทำบัตรรายการใหม่
    ประการที่ 2. แบ่งประเภทของหนังสือ ซึ่งแล้วแต่ทางห้องสมุดจะเป็นผู้กำหนด

ตามหลักการที่นิยมทั่วไป มักจะแบ่งหนังสือออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการให้บริการ คือ

    1. หนังสือธรรมดาที่สามารถให้ยืมออกนอกห้องสมุดได้
    2. หนังสืออ้างอิง ไม่ยืมออกนอกห้องสมุด ให้อ่านภายในเท่านั้น

หนังสือธรรมดาในห้องสมุดประชาชน เป็นหนังสือทั่วไป จัดซื้อตามวัตถุประสงค์ของห้องสมุด บรรณารักษ์ควรคำนึงถึงสัดส่วน ของอัตราหนังสือสำหรับเด็กด้วย หนังสือเด็ก ส่วนใหญ่มักเป็นหนังสือภาพ จึงควรคำนึงถึงมาตรฐานในการจัดพิมพ์หนังสือสำหรับเด็กด้วย หนังสือเด็กส่วนใหญ่มักเป็นหนังสือภาพ จึงควรคำนึงมาตรฐานในการจัดพิมพ์หนังสือของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ตามปกติ และ การซื้อหนังสือ ควรจะเป็นการซื้อหนังสือสำหรับเด็ก หนังสือบันเทิงคดี และหนังสือวิชาการทั่วไป

การเขียนรายการในร่างบัตรรายการ

การเขียนรายการลงในร่างบัตรรายการนั้น จะลงรายการของบัตรยืนพื้นพร้อม เลขทะเบียนด้วย ดังตัวอย่าง


      495.913/// เชียงใหม่, มหาวิทยาลัย. คณะมนุษยศาสตร์.
      ช722พ/////// พจนานุกรมภาษาไทยเปรียบเทียบ, กรุงเทพ เชียงใหม่
      ///////////// ไทยลื้อไทยคำ. เชียงใหม่, คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย
      ///////////// เชียงใหม่, 2525. 347 หน้า.

      ///////////// 23446 1. ภาษาไทย-วิจัย. 2. ภาษาไทย-พจนานุกรม

      ///////////// ภาษาถิ่น. 3. ชื่อเรื่อง.

รายการที่ลงมีดังต่อไปนี้

    1. ชื่อผู้แต่ง คนไทยใช้ชื่อตัว ตามด้วยนามสกุล ชาวตะวันตกใช้ชื่อสกุล ตามด้วยชื่อตัว ถ้ามียศ บรรดาศักดิ์ เชื้อพระวงศ์ ให้ลงรายการไว้หลังสกุล
    2. ชื่อหนังสือ คัดมาจากปกในซึ่งเป็นหน้าที่ถือว่าให้ชื่อที่สมบูรณ์และถูกต้องที่สุด จะต้องเขียนเต็มพร้อมคำอธิบายชื่อเรื่องด้วย
    3. ครั้งที่พิมพ์ ลงรายการเฉพาะที่มีการพิมพ์ตั้งแต่ครั้งที่ 2 ขึ้นไป
    4. สถานที่พิมพ์ ลงชื่อเมือง สำหรับต่างประเทศ ชื่อจังหวัดสำหรับประเทศไทย เช่น จังหวัดกาญจนบุรี ลงรายการว่า กาญจนบุรี
    5. ผู้จัดพิมพ์ หรือผู้รับผิดชอบ ในการจัดพิมพ์ ถ้าเป็นส่วนราชการ เช่น กระทรวง กรม กอง ให้ใส่ชื่อหน่วยราชการเป็นสำนักพิมพ์ ถ้าเป็น สำนักพิมพ์ ลงเพียงชื่อ เช่น แพร่พิทยา ศึกษิตสยาม โอเดียนสโตร์ ถ้าเป็นโรงพิมพ์ ให้ใส่โรงพิมพ์นำหน้าด้วย เช่น โรงพิมพ์ท่าพระจันทร์ โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น
    6. ปีที่พิมพ์ ให้ใส่เป็นตัวเลข เช่น 2521, 2522, 2528 ฯลฯ
    7. จำนวนหน้า ให้ถือตัวเลขที่ปรากฎในหน้าสุดท้ายสุดเป็นสำคัญ ถ้ามีภาพประกอบ ตาราง แผนที่ ต้องใส่ในรายการด้วย เช่น 582 หน้า. ภาพประกอบ, แผนภูมิ, ตาราง.
    8. แนวสืบค้น ประกอบด้วย
      8.1 หัวเรื่อง
      8.2 รายการที่เกี่ยวข้องกับผู้แต่ง เช่น ผู้แต่งร่วม ผู้แปล ผู้วาดภาพประกอบ ฯลฯ
      8.3 ชื่อเรื่อง
      8.4 ส่วนโยง

    9. เลขทะเบียน ลงไว้ด้านซ้ายมือของบัตร หลังจากที่ลงทะเบียนแล้วถ้าหนังสือ มีจำนวนเล่มมากเกิน 5 เล่ม ให้ลงทะเบียนเลขต้นกับท้าย โดยใช้ ยติภังค์ (-) เชื่อมเลขทะเบียน เช่น 4586 - 4590 5 ฉ.
    10. เลขเรียกหนังสือ ใส่ไว้มุมซ้ายของบัตรรายการ

พิมพ์บัตรรายการ

การพิมพ์บัตรรายการ จะทำหลังจากที่เขียนร่างบัตรรายการเสร็จแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ เจ้าหน้าที่พิมพ์บัตรรายการ จะต้องมีความรู้เรื่องการทำบัตรรายการเป็นอย่างดี เพราะการทำบัตรรายการจะต้องใช้ความละเอียด และปราณีตมากเมื่อเห็นร่างบัตรราย การสามารถพิมพ์บัตรครบชุดได้ทันที

ขั้นตอนของการพิมพ์บัตรรายการ

ขั้นที่ 1 จะต้องรู้จักโครงร่างของบัตรรายการเสียก่อนว่ามีอะไรบ้าง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ฝึกพิมพ์ใหม่

ขั้นที่ 2 การเว้นระยะ หรือการเว้นวรรคตอน และเครื่องหมายในบัตรรายการก่อนจะพิมพ์บัตรรายการ ควรรู้จักการย่อหน้า ในบัตรรายการที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

ตัวอย่างโครงร่างของบัตรรายการ

บัตรผู้แต่ง หรือ บัตรหลัก หรือ บัตรยืนพื้น ไวนาร์ (Wynar 1976: 27) ได้แนะนำการลงรายการสำหรับบัตรหลักดังต่อไปนี้

/เลขเรียก ชื่อผู้แต่ง.
/หนังสือ //ชื่อเรื่อง,/ชื่อเรื่องย่อย หรือชื่อเรื่องเผื่อเรียก,/
///////////// ข้อความเพิ่มเติม, และชื่ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง.//ครั้งที่พิมพ์.//
///////////// สถานที่พิมพ์,/สำนักพิมพ์,/ปีที่พิมพ์.
///////////// //จำนวนหน้าหรือเล่ม.//ภาพประกอบ,/และอื่น ๆ.//(ชื่อชุด)
///////////// //หมายเหตุข้อความ.
///////////// //สารบาญ.
///////////// //แนวสืบค้น.

เมื่อจะลงรายการหลัก (Main Entry) ให้เว้นจากขอบบนของบัตรลงมือ 3 บรรทัดพิมพ์ เริ่มลงรายการบรรทัดที่ 4

ย่อหน้า 1 เริ่มจากขอบด้านซ้ายเว้น 8 ระยะ เริ่มพิมพ์ระยะที่ 9
" 2 " 10 " " 11
" 3 " 12 " " 13

ย่อหน้าที่ 1 ใช้สำหรับรายการหลัก
ย่อหน้าที่ 2 ใช้สำหรับรายการเพิ่ม
ย่อหน้าที่ 3 ใช้เมื่อ

    ก. รายการหลักมีความยาวมาก พิมพ์บรรทัดเดียวไม่พอ
    ข.รายการเพิ่มไว้บนบรรทัดสุดยาวมาก พิมพ์บรรทัดเดียวไม่พอ
    ค. เมื่อสิ่งพิมพ์นั้นเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีหลายเล่มจบ และยังไม่อาจระบุจำนวนเล่มที่แน่นอนลงไปได้

    ขั้นที่ 3 ชนิดของบัตรที่จะพิมพ์

      1. บัตรหลัก หรือบัตรผู้แต่ง หรือบัตรยืนพื้น
      2. บัตรเพิ่มต่าง ๆ ที่ปรากฎในแนวสืบค้น
      3. บัตรแจ้งหมู่

    การพิมพ์ซองบัตรยืม และบัตรยืม
    อุปกรณ์
    1. เครื่องพิมพ์ดีด ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
    2. ซองบัตรยืม และบัตรยืม
    3. สลิปสำหรับลงรายการ
    การพิมพ์ซองและบัตรยืม กระทำเนื่องจากการลงทะเบียน โดยนำรายการบางรายการในสลิปมาลงในซ่องบัตรยืมและซองบัตร ได้แก่
    - เลขเรียกหนังสือ
    - เลขทะเบียนหนังสือ
    - ผู้แต่ง
    - ชื่อหนังสือ

    ตัวอย่างบัตรยืมและซองบัตร

    028.5 20319
    บ116ว
    ฉ.12

    ผู้แต่ง บันลือ พฤกษะวัน
    ชื่อหนังสือ วรรณกรรมกับเด็ก
    028.5 บันลือ พฤกษะวัน 20319
    บ118ว วรรณกรรมกับเด็ก
    ฉ.12

    การปิดซองบัตรยืม และบัตรกำหนดส่ง

    ซองบัตรยืม และบัตรยืมติดในปกหลัง การติดไม่ควรติดให้แข็งแรงนัก เพราะโอกาสต่อไปจะต้องดึงออกเก็บเรียงไว้เป็นหมวดหมู่ เมื่อมีการซ่อม บัตรกำหนดส่งติดด้านตรงข้ามกับปกหลังด้านใน ควรติดกาวเฉพาะส่วนบนเท่านั้น เพื่อดึงออกทิ้งได้สะดวกเมื่อเต็ม ข้อควรระวัง การปิดซอง และบัตรกำหนดส่งดังกล่าวไม่ควรปิดทับข้อความ ตารางหรือรูปภาพที่ทำให้หนังสือขาดสมบูรณ์ ควรหลีกเลี่ยงไปปิดที่อื่นในบริเวณใกล้เคียง

    การเขียนสันหนังสือ

    อุปกรณ์
    1. ดินสอไฟฟ้า
    2. ปากกาคอแร้ง
    3. อินเดียนอิ๊งค์
    4. เทปเขียนสันหนังสือ
    5. ปากกาตัดขอบเส้นเล็ก

    การเขียนสันหนังสือ เป็นขบวนการขั้นสุดท้ายในการเตรียมหนังสือที่จะต้องใช้เทคนิคการเขียนสัน เป็นการให้ความสะดวก แก่ผู้ใช้หอ้งสมุด หลังจากที่พบเลขเรียกหนังสือในบัตรรายการแล้ว หนังสือบนชั้นจะต้องมีเลขเรียกหนังสือเด่นชัด จึงจะหาหนังสือได้สะดวกและรวดเร็ว นอกจากนั้นยังให้ความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ ในการตรวจสอบหนังสือ และ การจัดหนังสือประจำวันขึ้นชั้น ดังนั้น การเขียนสันหนังสือจึงควรมีระยะที่แน่นอนเป็นมาตรฐานเดียวกัน

    การเขียนสันหนังสือแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

      1. หนังสือที่มีความหนาพอที่จะเขียนเลขเรียกหนังสือลงบนสันได้ เขียนโดยใช้แบบห่างจากด้านล่างของหนังสือประมาณ 2 1/2"
      2. หนังสือบาง และไม่สามารถเขียนเลขเรียกหนังสือลงบนสันได้ให้เขียนที่หน้าปก บริเวณที่เห็นเด่นชัด

    การทายากันแมลง

    การทายากันแมลงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับห้องสมุดโดยทั่วไป เพราะจะช่วยป้องกัน แมลงหรือปลวกที่กัดกินหนังสือ และ กาวในหนังสือได้ จึงควรจะได้รับการป้องกันเสียก่อน การทายากันแมลงกระทำเมื่อเขียนเลขหนังสือและติดซองบัตรเรียบร้อยแล้ว

    บริเวณที่ควรทายากันแมลง

      - บริเวณปกหน้า ปกหลัง ทั้งด้านหน้าและด้านใน
      - บริเวณในปก ตรงที่เชื่อมกับสันทั้ง 2 ทาง
      - บริเวณด้านสันและด้านตามยาว ของหนังสือทั้ง 3 ด้าน

    การตรวจสอบความเรียบร้อย

      การตรวจสอบความเรียบร้อยจะช่วยให้พบข้อบกพร่องได้มาก ได้แก่
      - การเขียนสันผิด
      - พิมพ์เลขทะเบียนไม่ตรงกัน (ที่ซองและบัตรยืม)
      - ลืมประทับตรา
      - ไม่มีบัตรกำหนดส่ง

    การเรียงบัตรรายการเข้าตู้

    หลังจากพิมพ์บัตรรายการเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีการตรวจบัตรรายการอย่างละเอียดเกี่ยวกับการสะกด การันต์ จำนวนบัตรรายการรวมในชุด การเว้นวรรค หัวเรื่อง เลขทะเบียนหนังสือจนแน่ใจว่าถูกต้องที่สุดแล้ว จึงนำมาเรียง โดยแยกเป็น 4 พวก

      พวกที่ 1 บัตรแจ้งหมู่หนังสือ
      พวกที่ 2 บัตรผู้แต่ง ผู้แต่งร่วม ผู้แปล ผู้เขียนภาพประกอบ
      พวกที่ 3 บัตรเรื่อง
      พวกที่ 4 บัตรชื่อเรื่อง

      แต่ละพวกที่มีการจัดเรียงแตกต่างกันไป คือ พวกที่ 1 จัดเรียงเข้าตู้บัตรแจ้งหมู่ ตามลำดับเลขเรียกหนังสือ สำหรับบรรณารักษ์ใช้ ส่วนพวกที่ 2-4 เรียงแยกกันตามลำดับตัวอักษรแรกที่ปรากฎบนบรรทัดแรกสุด

    หลักการเรียงบัตรรายการ

      1. หลักทั่วไป
      ยึดหลักการเรียงลำดับตัวอักษรตามแบบพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานทุกประการ ได้แก่
      1. เรียงลำดับตามรูปคำ ไม่คำนึงถึงเสียง
      2. พยัญชนะ ฤ ฤา เรียงไว้หลังตัว ร ภ ภา ไว้หลังตัว ล
      3. คำที่มีตัวสะกดมาก่อนคำที่มีรูปสระผสม
      4. รูปสระให้เรียงตามลำดับรูปสระ 26 รูป ดังนี้
      ะ -ะ า -ำ เ- เ-า เ-าะ เ-
      เ- เ-ะ เ- เ-ะ แ- แ-ะ โ โ-ะ ใ ไ
      5. อักษรย่อเรียงไว้หน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยอักษรเดียวกัน

      2. หลักเฉพาะบัตรผู้แต่ง
      2.1. ถ้าพยัญชนะ - สระ คำแรกซ้ำกัน พิจารณาตัวถัดไป
      2.2. ชื่อตัวเหมือนกัน พิจารณาชื่อสกุล
      2.3. บรรดาศักดิ์ตรงกัน ให้เรียงบรรดาศักดิ์สูงไว้ก่อน ตามด้วยบรรดาศักดิ์รอง
      2.4. หนังสือของผู้แต่งคนเดียวกันหลายเล่ม เรียงตามชื่อหนังสืออีกชั้นหนึ่ง

      3. หลักเฉพาะบัตรชื่อเรื่อง
      3.1. เรียงลำดับตัวอักษรของชื่อเรื่องตามลำดับข้อความในบรรทัดแรก
      3.2. ชื่อเรื่องซ้ำกันให้เรียงตามชื่อผู้แต่ง
      3.3. ชื่อหนังสือที่เป็นตัวเลข เรียงเหมือนคำอ่าน

      4. หลักเกี่ยวกับครั้งที่พิมพ์ และ พ.ศ.
      4.1. หนังสือที่มีการพิมพ์หลายครั้ง ให้เรียงตามลำดับครั้งหลังสุดไปหาครั้งก่อน ๆ
      4.2. ถ้าไม่แจ้งครั้งที่พิมพ์ ให้เรียงลำดับตามปีที่พิมพ์ ครั้งหลังสุดไว้หน้า

      5. หลักเฉพาะบัตรเรื่อง 5.1. หัวเรื่องเรียงตามอักษรของข้อความ
      5.2. ถ้าหัวเรื่องเหมือนกัน เรียงตามบรรทัดที่ 2
      5.3.หัวเรื่องที่มีหัวเรื่องย่อยตามหลังให้เรียงไว้หลังหัวเรื่องเฉพาะและตามด้วยหัวเรื่องที่มีข้อความติดต่อกัน เช่น

          จิตวิทยา
          จิตวิทยา - ความเรียง
          จิตวิทยา - พจนานุกรม
          จิตวิทยาครุศาสตร์
          จิตวิทยาประยุกต์

      5.4. หัวเรื่องประวัติศาสตร์แบ่งตามสมัย ให้เรียงลำดับ ปี พ.ศ.

    การเรียงบัตรแจ้งหมู่

      1. เรียงจากเลขหมู่น้อยไปหามาก
      2. เลขหมู่ซ้ำกัน เรียงตามอักษรย่อของผู้แต่ง
      3. ถ้าอักษรย่อซ้ำกัน พิจารณาชื่อเต็ม
      4. หนังสือที่ผู้แต่งคนเดียวกัน ที่มีเลขหมู่เหมือนกันให้เรียงตามชื่อหนังสืออีกด้วย

    การนำหนังสือใหม่เข้าชั้น

    หนังสือใหม่ควรจะเลือกใส่ไว้ในตู้แสดงหนังสือใหม่อย่างน้อยเรื่องละ 1 เล่ม และควรเสนอหนังสือใหม่ ให้ผู้ใช้ห้องสมุดทราบโดยทั่วกันและเปลี่ยนแปลงหนังสือในตู้แสดงทุก ๆ 2 สัปดาห์

หน้าสารบัญ

ปรับปรุงล่าสุด วันที่ 9 มิถุนายน 2544
รศ. จุมพจน์ วนิชกุล
chumpot@hotmail.com