ภาษาเกาหลี
ภาษาเกาหลี 한국어 ฮันกุกอ, 조선말 โชซอนมัล |
||
---|---|---|
พูดใน: | เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, ตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและ ญี่ปุ่น | |
จำนวนผู้พูด: | 80 ล้าน [1] | |
อันดับ: | 12 (จำนวนใกล้เคียงกับภาษาเวียดนาม ภาษาเตลูกู ภาษาทมิฬ ภาษามราฐี) | |
ตระกูลภาษา: | ไม่มีการจัด อาจจะเป็นตระกูลภาษาอัลไตอิก หรือ ภาษาเอกเทศ | |
สถานะทางการ | ||
ภาษาทางการใน: | เกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้ | |
ผู้วางระเบียบ: | สถาบันภาษาเกาหลีแห่งชาติ | |
รหัสภาษา | ||
ISO 639-1: | ko | |
ISO 639-2: | kor | |
ISO 639-3: | kor | |
หมายเหตุ: บทความนี้มีสัญลักษณ์สัทอักษรสากลปรากฏอยู่ คุณอาจต้องการไทป์เฟซที่รองรับยูนิโคดเพื่อการแสดงผลที่สมบูรณ์ | ||
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมภาษา |
ภาษาเกาหลี (한국어/조선말, ดูในส่วนชื่อ) เป็นภาษาที่ส่วนใหญ่พูดใน ประเทศเกาหลีใต้ และ ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้เป็นภาษาราชการ และมีคนชนเผ่าเกาหลีที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนพูดโดยทั่วไป(ในจังหวัดเหยียนเปียน มณฑลจื๋อหลิน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลี) ทั่วโลกมีคนพูดภาษาเกาหลี 78 ล้านคน รวมถึงกลุ่มคนในอดีตสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล ญี่ปุ่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผู้พูดใน ฟิลิปปินส์ ด้วย การจัดตระกูลของภาษาเกาหลีไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่คนส่วนมากมักจะถือเป็นภาษาเอกเทศ นักภาษาศาสตร์บางคนได้จัดกลุ่มให้อยู่ใน ตระกูลภาษาอัลไตอิกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากภาษาเกาหลีมีวจีวิภาคแบบภาษาคำติดต่อ ส่วนวากยสัมพันธ์หรือโครงสร้างประโยคนั้น เป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา (SOV)
อักษรเกาหลี เรียกว่าอักษรฮันกึล ใช้แทนเสียงของแต่ละพยางค์ นอกจากนี้ใช้ยังตัวอักขระแบบจีนเรียกว่าอักษรฮันจา ในการเขียนด้วย ในขณะที่คำศัพท์ที่ใช้กันส่วนใหญ่เป็นคำภาษาเกาหลีแท้ โดยที่มีคำศัพท์มากกว่า 50% มาจากภาษาจีนทั้งทางตรงและทางอ้อม
เนื้อหา |
[แก้] เกี่ยวกับชื่อ
ชื่อเรียกคำว่า "ภาษาเกาหลี" ในเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีความแตกต่างกัน ในเกาหลีเหนือ ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่มักเรียกว่า โชซอนมัล (조선말) หรือหากเป็นทางการขึ้นจะเรียกว่า โชซอนอ (조선어)
ในเกาหลีใต้ ประชาชนส่วนใหญ่เรียกภาษาของตนว่า ฮันกุกมัล (한국말) หรือ ฮันกุกอ (한국어) หรือ กุกอ (국어) บางครั้งอาจเรียกในแบบภาษาพื้นเมืองหรือภาษาถิ่นว่า อูรีมัล (แปลว่า "ภาษาของเรา"; มาจากคำว่า 우리말 (เขียนติดกันในเกาหลีใต้),หรือ 우리 말 (เขียนแยกกันในเกาหลีเหนือ))
[แก้] สำเนียงท้องถิ่น
ภาษาเกาหลีมีสำเนียงท้องถิ่นมากมาย ภาษาทางการที่ใช้ในเกาหลีใต้คือสำเนียงท้องถิ่นที่ใช้ในพื้นที่บริเวณกรุงโซล และภาษาทางการที่ใช้ในเกาหลีเหนือคือสำเนียงท้องถิ่นที่ใช้บริเวณกรุงเปียงยาง สำเนียงท้องถิ่นโดยทั่วไปจะมีความคล้ายคลึงกัน ยกเว้นสำเนียงท้องถิ่นบนเกาะเชจูที่มีความแตกต่างค่อนข้างมาก ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างสำเนียงท้องถิ่นแต่ละแห่งคือ การเน้นเสียง (stress) สำเนียงท้องถิ่นของกรุงโซลจะเน้นเสียงน้อยมาก และไม่ค่อยมีความสูงต่ำในการเปล่งเสียง ในทางกลับกัน สำเนียงท้องถิ่นของ คยองซัง มีความสูงต่ำของการออกเสียงอย่างมากจนคล้ายกับภาษาทางยุโรป อย่างไรก็ตามเราสามารถจำแนกสำเนียงท้องถิ่นของภาษาเกาหลีออกเป็นภูมิภาคต่างๆได้ดังตาราง โดยพิจารณาจากขอบเขตของภูเขาและทะเล**
สำเนียงทางการ | บริเวณที่ใช้ |
---|---|
โซล | โซล อินชอน เกียงกี (เกาหลีใต้) และ แคซอง (เกาหลีเหนือ) |
เปียงยาง | เปียงยาง ชากัง (เกาหลีเหนือ) |
สำเนียงท้องถิ่น | บริเวณที่ใช้ |
ชุงชอง | แตจอน ชุงชอง (เกาหลีใต้) |
กังวอน | กังวอน (เกาหลีใต้)/ กังวอน (เกาหลีเหนือ) |
คยองซัง | บูซาน, แทกู, อุลซาน, เขตคยองซัง (เกาหลีใต้) |
ฮัมกยึง | ราซึน, เขตฮัมกยึง, รยังกัง (เกาหลีเหนือ) |
ฮวังแฮ | เขตฮังแฮ (เกาหลีเหนือ) |
เชจู | เกาะเชจู/จังหวัดเชจู (เกาหลีใต้) |
จอลลา | กวางจู, เขตจอลลา (เกาหลีใต้) |
[แก้] อักษรเกาหลี
- ดูบทความหลักที่ อักษรฮันกึล
อักษรเกาหลี เรียกว่าอักษรฮันกึล โดยผิวเผินแล้ว อักษรฮันกึลคล้ายกับอักษรรูปภาพเหมือนอักษรจีน แต่จริงๆ แล้ว อักษรฮันกึลอยู่ในระบบอักษรแทนเสียง (ตัวพยัญชนะเป็นอักษรรูปภาพเลียนแบบอวัยวะการออกเสียงในขณะที่ออกเสียงนั้นๆ สระเป็นอักษรรูปภาพใช้แนวคิดเชิงปรัชญา เกี่ยวกับ ท้องฟ้า พื้นดิน และมนุษย์)คือประกอบด้วยพยัญชนะและสระ ซึ่งมีทั้งหมด 24 ตัว ประกอบด้วย
- พยัญชนะ 14 ตัว คือ ㄱ ㄴ ㄷ ㄹ ㅁ ㅂ ㅅ ㅇ ㅈ ㅊ ㅋ ㅌ ㅍ และ ㅎ
- สระ 10 ตัว คือ ㅏ ㅑ ㅓ ㅕ ㅗ ㅛ ㅜ ㅠ ㅡ และ ㅣ
พยัญชนะและสระดังกล่าวเรียกว่า พยัญชนะเดี่ยว และสระเดี่ยว ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เรียกว่าพยัญชนะซ้ำ และสระประสมด้วย คือ
- พยัญชนะซ้ำ 5 ตัว ได้แก่ ㄲ ㄸ ㅃ ㅆ และ ㅉ
- สระประสม 11 ตัว ได้แก่ ㅐ ㅒ ㅔ ㅖ ㅚ ㅟ ㅘ ㅙ ㅝ ㅞ และ ㅢ
อักษรเกาหลีมีลำดับการเขียนคล้ายอักษรจีน คือ ลากจากบนลงล่าง และจากซ้ายไปขวา นอกจากนี้การเขียนพยางค์หนึ่งๆ จะเริ่มเขียนจากพยัญชนะต้น ไปสระ และตัวสะกดตามลำดับ
[แก้] เลขเกาหลี
จำนวน | คำอ่าน | ภาษาเขียน |
---|---|---|
1 | ฮา-นา / ฮัน | 하나/일 |
2 | ทูล / อี | 둘/이 |
3 | เซด / เซ | 셋/삼 |
4 | เนด / เน | 넷/사 |
5 | ทา-ซอด | 다섯/오 |
6 | ยอ-ซอด | 여섯/육 |
7 | อิล-กบ | 일곱/칠 |
8 | ยอ-ดอล | 여덟/팔 |
9 | อา-ฮบ | 아홉/구 |
10 | ยอล | 열/십 |
[แก้] การเทียบเสียง
ในภาษาเกาหลี ได้มีการกำหนดระบบในการถอดภาษาเกาหลีด้วยอักษรโรมัน ไว้ โดยเป็นที่นิยมมาก 2 ระบบ คือ ระบบกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลี 2000 ระบบที่ใช้อย่างเป็นทางการในประเทศเกาหลีใต้ปัจจุบัน และ ระบบแมกคูน-ไรซ์ชาวเออร์ ใช้ในประเทศเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการในปัจจุบัน และเคยใช้ในเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในช่วง พ.ศ. 2527-2543
สำหรับในภาษาไทยนั้น เนื่องจากยังไม่มีการเทียบเสียงภาษาเกาหลีกับภาษาไทยอย่างเป็นทางการ ข้อมูลการเทียบเสียงต่อไปนี้จึงเป็นเพียงการเทียบเสียงเบื้องต้น ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องมากนัก พยัญชนะทุกตัวในภาษาเกาหลีมีเสียงแตกต่างกัน แต่พบว่าบางครั้งการได้ยินของคนไทยไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้เหมือนคนเกาหลี เช่น คำว่า 자 กับ 차 เป็นต้น
[แก้] พยัญชนะ
ฐานริมฝีปาก | ฐานปุ่มเหงือก | ฐานหลังปุ่มเหงือก | ฐานเพดานอ่อน | ฐานเส้นเสียง | ||
---|---|---|---|---|---|---|
เสียงกักและ เสียงกึ่งเสียดแทรก |
สิถิลเบา | ㅂ /p/, /b/ ป-บ | ㄷ /t/, /d/ ต-ด | ㅈ /t͡ɕ/, /d͡ʑ/ จ-จ͡ย | ㄱ /k/, /g/ ก-ก͡ง | |
สิถิลหนัก | ㅃ /p͈/ ป* | ㄸ /t͈/ ต* | ㅉ /t͡ɕ͈/ จ* | ㄲ /k͈/ ก* | ||
ธนิต | ㅍ /pʰ/ พ | ㅌ /tʰ/ ท | ㅊ /t͡ɕʰ/ ช | ㅋ /kʰ/ ค | ||
เสียงเสียดแทรก | เบา | ㅅ /s/หรือ/ɕ/ ซ | ㅎ /h/ ฮ | |||
หนัก | ㅆ /s͈/หรือ/ɕ͈/ ซ* | |||||
เสียงนาสิก | ㅁ /m/ ม | ㄴ /n/ น | ㅇ /ŋ/ ง (ตัวสะกด) | |||
เสียงข้างลิ้น | ㄹ /l/ ล |
พยัญชนะที่กำกับดอกจันไว้หมายถึงพยัญชนะเสียงหนัก
สำหรับ ㅇ เมื่อเป็นพยัญชนะต้นแต่มีคำอื่นมาก่อน จะนำพยัญชนะสะกดของคำก่อนหน้ามาเป็นเสียงพยัญชนะต้น ดูที่ การอ่านโยงเสียง
ตัวอย่างคำศัพท์
หน่วยเสียง | ตัวอย่าง | ทับศัพท์ | คำแปล |
---|---|---|---|
ㅂ /p/ | 발 [pal] | bal | เท้า |
ㅃ /p͈/ | 빨다 [p͈alda] | ppalda | ซักผ้า |
ㅍ /pʰ/ | 팔 [pʰal] | pal | แขน |
ㅁ /m/ | 말 [mal] | mal | ม้า |
ㄷ /t/ | 달 [tal] | dal | พระจันทร์ |
ㄸ /t͈/ | 딸 [t͈al] | ttal | ลูกสาว |
ㅌ /tʰ/ | 타다 [tʰada] | tada | ขี่ |
ㄴ /n/ | 날 [nal] | nal | วัน |
ㅈ /t͡ɕ/ | 잘 [t͡ɕal] | jal | บ่อน้ำ |
ㅉ /t͡ɕ͈/ | 짜다 [t͡ɕ͈ada] | jjada | คั้น |
ㅊ /t͡ɕʰ/ | 차다 [t͡ɕʰada] | chada | เตะ |
ㄱ /k/ | 가다 [kada] | gada | ไป |
ㄲ /k͈/ | 깔다 [k͈alda] | kkalda | กระจาย |
ㅋ /kʰ/ | 칼 [kʰal] | kal | มีด |
ㅇ /ŋ/ | 방 [paŋ] | bang | ห้อง |
ㅅ /s/ | 살 [sal] | sal | เนื้อหนัง |
ㅆ /s͈/ | 쌀 [s͈al] | ssal | ข้าวสาร |
ㄹ /l/ | 바람 [paɾam] | baram | ลม |
ㅎ /h/ | 하다 [hada] | hada | ทำ |
[แก้] สระ
ฐาน | +อี | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฐาน | ㅏ /a/ อา | ㅓ /ʌ/ ออ | ㅗ /o/ โอ | ㅜ /u/ อู | ㅡ /ɯ/ อือ | ㅣ /i/ อี | ㅐ /ɛ/ แอ | ㅔ /e/ เอ | ㅚ /ø/ เออ | ㅟ /y/ อวี | ㅢ /ɰi/ งึย (อึย) |
ย+ | ㅑ /ja/ ยา | ㅕ /jʌ/ ยอ | ㅛ /jo/ โย | ㅠ /ju/ ยู | ㅒ /jɛ/ แย | ㅖ /je/ เย | |||||
ว+ | ㅘ /wa/ วา | ㅝ /wʌ/ วอ | ㅙ /wɛ/ แว | ㅞ /we/ เว |
- /ʌ/ ออกเสียงอยู่ระหว่าง "ออ" กับ "เออ" บางตำราก็ใช้ /ə/ "เออ"
- /ø/ ออกเสียงอยู่ระหว่าง "เอ" กับ "เออ"
สระเกาหลีไม่เหมือนภาษาไทยซึ่งมีเสียงสั้นเสียงยาวแยกกัน เช่น สระอิ หรือ สระอี จะรวมเป็นสระเดียว คือ /i/ แต่จะเป็นเสียงสั้นหรือเสียงยาวนั้นขึ้นอยู่กับการเน้นเสียง แม้คำที่เขียนเหมือนกันแต่อ่านด้วยเสียงที่ต่างกัน ความหมายก็อาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ดังตัวอย่างต่อไปนี้
สระเสียงสั้น | สระเสียงยาว | ||
---|---|---|---|
/i/ อิ | 시장 (sijang [ɕiˈʥaŋ], ความหิว) | /iː/ อี | 시장 (sijang [ˈɕiːʥaŋ], ตลาด) |
/e/ เอะ | 베개 (begae [peˈɡɛ], หมอน) | /eː/ เอ | 베다 (beda [ˈpeːda], ตัด) |
/ɛ/ แอะ | 태양 (taeyang [tʰɛˈjaŋ], พระอาทิตย์) | /ɛː/ แอ | 태도 (taedo, [ˈtʰɛːdo], ความคิดเห็น) |
/a/ อะ | 말 (mal [ˈmal], ม้า) | /aː/ อา | 말 (mal [ˈmaːl], คำ, ภาษา) |
/o/ โอะ | 보리 (bori [poˈɾi], ข้าวบาร์เล่ย์) | /oː/ โอ | 보수 (bosu [ˈpoːsu], เงินเดือน) |
/u/ อุ | 구리 (guri [kuˈɾi], ทองแดง) | /uː/ อู | 수박 (subak [ˈsuːbak], แตงโม) |
/ʌ/ เอาะ | 벌 (beol [ˈpʌl], การลงโทษ) | /əː/ เออ | 벌 (beol [ˈpəːl], ผึ้ง) |
/ɯ/ อึ | 어른 (eoreun [ˈəːɾɯn], ผู้อาวุโส) | /ɯː/ อือ | 음식 (eumsik [ˈɯːmɕik], อาหาร) |
^ ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ออกเสียง /ʌː/ "ออ" (เสียงยาว) เป็น /əː/ "เออ"
[แก้] ตัวสะกด
แม้พยัญชนะเกาหลีจะมีหลายตัว และแต่ละตัวเสียงแตกต่างกัน แต่เมื่อนำมาใช้เป็นตัวสะกดแล้ว จะมีทั้งหมด 7 แม่เท่านั้น ดังตาราง จะเห็นว่าคล้ายคลึงกับภาษาไทย โดยที่ต่างออกไปคือ เสียง "ล" เมื่อนำไปเป็นตัวสะกดแล้วจะไม่ใช่เสียง "น" นอกจากนี้อาจพบตัวสะกดแบบที่มีพยัญชนะสะกดสองตัว เช่น 여덟, 앉다 ฯลฯ ตัวสะกดลักษณะนี้จะเลือกออกเสียงเฉพาะตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น และอีกตัวจะไม่ออกเสียง เช่น 여덟 อ่านว่า /ยอ-ดอล/ ไม่ใช่ /ยอ-ดอบ/ การที่จะทราบว่าตัวสะกดคู่จะออกเสียงพยัญชนะตัวใด แสดงดังตาราง อย่างไรก็ตามมีตัวสะกดคู่บางส่วนที่ออกเสียงไม่แน่นอนขึ้นกับคำ คือ ㄺ และ ㄼ
ตัวสะกด | พยัญชนะ | ตัวอย่าง |
---|---|---|
กง | ㅇ | 성 = /ซอง/ |
กน | ㄴ ㄵ ㄶ | 원 = /วอน/ |
กม | ㅁ ㄻ | 남 = /นัม/ |
กก | ㄱ ㄲ ㅋ ㄳ | 밖 = /ผัก/ |
กด | ㄷ ㅅ ㅆ ㅈ ㅉ ㅊ ㅌ ㅎ | 이것 = /อี-กอด/ |
กบ | ㅂ ㅍ ㅄ ㄿ | 십 = /ฉิบ/, 없 = /ออบ/ |
กล | ㄹ ㄽ ㄾ ㅀ | 팔 = /พัล/ |
ไม่แน่นอน | ㄺ ㄼ | 여덟 = /ยอ-ดอล/ |
[แก้] การอ่านโยงเสียง
ในพยางค์หนึ่งๆ กรณีที่พยัญชนะต้นเป็นตัวอีอึง (ㅇ) เสียงของมันอาจไม่ใช่เสียง "อ" แต่จะเป็นเสียงของตัวสะกดในพยางค์ก่อนหน้าแทน เช่น
- 직업 อ่านว่า /지겁/ (ชี-กอบ) ไม่ใช่ /직-업/ (ชิก-ออบ)
- 당신은 อ่านว่า /당시는/ (ทัง-ชี-นึน) ไม่ใช่ /당-신-은/ (ทัง-ชิน-อึน)
ถ้าไม่มีคำใดมาก่อนจะออกเสียงคล้าย อ หรือถ้าคำก่อนหน้าไม่มีพยัญชนะสะกด จะออกเสียงเชื่อมสระเข้าด้วยกัน
[แก้] กฎการอ่านแบบกลมกลืนเสียง*
ในพยางค์ใดที่ลงท้ายด้วยตัวสะกดและพยัญชนะต้นในพยางค์ถัดไปที่ติดกัน
เสียงของตัวสะกดจะเปลี่ยนเพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน โดยจำแนกไว้เป็นกฎต่างๆดังต่อไปนี้
1. พยางค์ใดลงท้ายด้วยตัวสะกดในแม่ /ㄱ/, /ㄷ/, /ㅂ/ และพยัญชนะต้นในพยางค์ถัดไปเป็นเสียงนาสิก เสียงตัวสะกดจะเปลี่ยนเป็น /ㅇ/,/ㄴ/,/ㅁ/ ตามลำดับ เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน
ตัวอย่างเช่น
집는다 -> /짐는다/ เขียนว่า "ชิบนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "ชิมนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน
받는다 -> /반는다/ เขียนว่า "พัดนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "พันนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน
속는다 -> /송는다/ เขียนว่า "ซกนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "ซงนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน
ที่คุ้นเคยกันดีได้แก่ ไวยากรณ์ลงท้ายประโยคอย่างสุภาพ "~습니다" ถึงแม้ว่าจะเขียนเป็น ซึ่บนิดา แต่เพื่อให้เป็นไปตามเหตุผลดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว เราก็จะอ่านว่า ซึมนิดา
[แก้] ตัวอย่างประโยคหรือวลีที่มักพบ
ประโยคเกาหลี | คำอ่านไทย | คำแปล |
---|---|---|
안녕하세요. | อัน-นยอง-ฮา-เซ-โย | สวัสดี |
감사합니다./고맙습니다. | คัม-ซา-ฮัม-นิ-ดะ / โค-มับ-ซึม-นิ-ดะ | ขอบคุณ |
사랑해. | ซา-รัง-แฮ | ฉันรักคุณ |
실례지만. | ชิล-รเย-จี-มัน | ขอประทานโทษครับ |
안녕히 주무세요. | อัน-นยอง-ฮี๊ จู-มู-เซ-โย | ราตรีสวัสดิ์ |
반갑습니다. | พัน-กั๊บ-ซึม-นี-ดา | ยินดีที่ได้รู้จัก |
죄송합니다. 저 먼저 갑니다 | ชเว-ซง-ฮัม-นี-ดา. ชอ-มอน-จอ-กัม-นี-ดา. | ขอโทษครับ ผมไปก่อนนะครับ |
[แก้] ไวยากรณ์
การวางคำในประโยคภาษาเกาหลีมีลักษณะใกล้เคียงกับการเรียงในภาษาญี่ปุ่นและภาษาตุรกีรวมไปถึงภาษาในประเทศอินเดีย โดยเรียงลำดับคำในประโยคเป็น "ประธาน-กรรม-กริยา" ซึ่งแตกต่างกับประโยคในภาษาไทยที่เป็น "ประธาน-กริยา-กรรม" เช่นประโยค "ฉันกินข้าว" ในภาษาไทย จะเขียนลำดับเป็น "ฉันข้าวกิน" ในภาษาเกาหลี
ภาษาเกาหลีมีคำช่วยเพื่อบอกหน้าที่ของคำต่างๆ ในประโยค เช่น เป็นคำช่วยที่ใช้วางหลังสถานที่เพื่อระบุตำแหน่ง และ หรือ เป็นคำช่วยที่วางหลังคำเพื่อระบุว่าคำนั้นเป็นประธานของประโยค เป็นต้น นอกจากนี้ภาษาเกาหลียังมีการผันรูปกริยาหลายรูปแบบเพื่อเปลี่ยนแปลงกาลเทศะ เช่น ระดับความสุภาพและความเป็นทางการของประโยค สภาพกาลของประโยคว่าเป็นอดีต อนาคต หรือปัจจุบัน
[แก้] อ้างอิง
- Sohn, H.-M. (1999). The Korean Language. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-36943-5.
- Song, J.J. (2005). The Korean Language: Structure, Use and Context. London: Routledge. ISBN 0-415-32802-0.
[แก้] หนังสืออ่านเพิ่ม
- Chang, Suk-jin (1996). Korean. Philadelphia: John Benjamins Publishing Company. ISBN 1556197284. (Volume 4 of the London Oriental and African Language Library).
- Hulbert, Homer B. (1905): A Comparative Grammar of the Korean Language and the Dravidian Dialects in India. Seoul.
- Lee, Ki-Moon Lee and S. Robert Ramsey. A History of the Korean Language (Cambridge University Press; 2011) 352 pages.
- Martin, Samuel E. (1966): Lexical Evidence Relating Japanese to Korean. Language 42/2: 185–251.
- Martin, Samuel E. (1990): Morphological clues to the relationship of Japanese and Korean. In: Philip Baldi (ed.): Linguistic Change and Reconstruction Methodology. Trends in Linguistics: Studies and Monographs 45: 483-509.
- Miller, Roy Andrew (1971): Japanese and the Other Altaic Languages. Chicago: University of Chicago Press. ISBN 0-226-52719-0.
- Miller, Roy Andrew (1996): Languages and History: Japanese, Korean and Altaic. Oslo: Institute for Comparative Research in Human Culture. ISBN 974-8299-69-4.
- Ramstedt, G. J. (1928): Remarks on the Korean language. Mémoires de la Société Finno-Oigrienne 58.
- Rybatzki, Volker (2003): Middle Mongol. In: Juha Janhunen (ed.) (2003): The Mongolic languages. London: Routledge. ISBN 0-7007-1133-3: 47–82.
- Starostin, Sergei A.; Anna V. Dybo; Oleg A. Mudrak (2003): Etymological Dictionary of the Altaic Languages, 3 volumes. Leiden: Brill Academic Publishers. ISBN 90-04-13153-1.
- Sohn, H.-M. (1999): The Korean Language. Cambridge: Cambridge University Press.
- Sohn, Ho-Min (2006). Korean Language in Culture and Society. Boston: Twayne Publishers. ISBN 9780824826949.
- Song, J.-J. (2005): The Korean Language: Structure, Use and Context. London: Routledge.
- Trask, R. L. (1996): Historical linguistics. Hodder Arnold.
- Vovin, Alexander: Koreo-Japonica. University of Hawai'i Press.
- Whitman, John B. (1985): The Phonological Basis for the Comparison of Japanese and Korean. Unpublished Harvard University Ph.D. dissertation.
[แก้] ดูเพิ่ม
- การถอดภาษาเกาหลีด้วยอักษรโรมัน
- ภาษาเกาหลีไซนิจิ (ญี่ปุ่น: 在日朝鮮語 ไซนิจิโจวเซนโงะ ?) ภาษาเกาหลีที่ใช้พูดในกลุ่มชาวเกาหลีที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งมีความใกล้เคียงกับภาษาเกาหลีทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี แต่ก็ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาญี่ปุ่น
- ภาษาโกรยอ-มาร์ (ซีริลลิก:Корё маль โกรยอมัล) ภาษาเกาหลีที่ใช้พูดโดยชาวโกรยอ-ซารัม (ซีริลลิก: Корё сарам, ฮันกึล: 고려사람) ผู้สืบเชื้อสายเกาหลีในเอเชียกลาง ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำมาจากเกาหลีเหนือเพื่อนำมาใช้แรงงาน โดยภาษานี้ได้อักษรซีริลลิกในการเขียน
- ภาษาเกาหลีถิ่นจีน (จีน:中國朝鮮) เป็นกลุ่มชาวจีนเชื้อสายเกาหลีที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลีที่มีเขตแดนต่อกับเกาหลีเหนือ ใช้สำเนียงใกล้เคียงกับเกาหลีเหนือ
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น