|
เกาะติดวิกฤติโลกผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส
133.33 ส192ก
ปรากฏการณ์สะเทือนขวัญแห่งศตวรรษ
ผู้แต่ง: สนธิ สารธรรม
ชื่อเรื่อง: เกาะติดวิกฤติโลกผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส
สรุปเนื้อหา
ปรากฏการณ์สะเทือนขวัญแห่งศตวรรษ
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า เมื่อ 65 ล้านปีก่อนนี้ ขณะที่ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่นั้น ได้มีดาวหางที่ดับไปแล้ว โคจรเข้าหาดวงอาทิตย์หลายครั้งและได้พุ่งเข้าชนโลก ทำให้โรคสะท้านสะเทือน จนทำทำให้แกนของโลกเปลี่ยนวิธีโคจรไป การที่ดาวหางพุ่งชนโลกจะเกิดแรงระเบิดทำให้ อีรีเดียม ซึ่งเป็นธาตุประเภทโลหะหนัก และเป็นส่วนประกอบปริมาณมากในดาวหางดวงนั้นแตกกระจายแพร่ไปบนท้องฟ้า นักวิทยาศาสตร์กล่าวถึงการระเบิดครั้งนี้ว่ารุนแรงกว่าครั้งที่ภูเขาไฟซึ่งอยู่ระหว่างเกาะชวา กับเกาะสุมาตรา ในเดือนสิงหาคม ปี 1883 ยังทำให้ฝุ่นพุ่งขึ้นไปกว่า 17 ไมล์
และ แพร่กระจายไปเป็นพันไมล์ ทำให้บดบังแสงอาทิตย์จนครึ้มสลัวไปหลายเดือนในหลายๆส่วนของโลก เมื่อปลายเดือนที่แล้ว นิตยสาร TIME ได้ลงข่าวใหญ่น่าระทึกใจ เรื่องดาวหางจะชนกับดาวพฤหัส ในวันที่ 16 กรกฎาคม มีเนื้อหาพอสรุปคร่าวๆว่าดาวหางกลุ่มใหญ่ที่สุดในระบบสุริยจักรวาล คงจะเป็นการเตือนภัยของมหาภัยพิบัติ ที่มนุษยชาติจะต้งประสบ แล้วอีก 6 วันต่อมาก็จะมีดวงหางตามกันมาเป็นขบวน บางดาวมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 4 ก.ม. จะทยอยกันพุ่งเข้าชนดาวพฤหัส ซึ่งเป็นเสมือนเป้านิ่ง ทั้งที่เกิดจากดาวหางกลุ่มนี้โคจรเข้าใกล้ดาวพฤหัส อย่างมาก
จึงเข้าไปในรัศมีของแรงดึงดูดของดาวพฤหัส ซึ่งจะทำให้กลุ่มดาวหางแตกกระจายเป็น 21 ดวง กลุ่มดาวทั้ง 21 ดวงนี้จะลอยเข้าสู่วงโคจรของดาวจูปิเตอร์หรืออาจจะเกาะกลุ่มกันจนกว่าจะไปถึงบรรยากาศของก๊าซหนาๆ ซึ่งคือ ผิวของดาวพฤหัสนั่นเอง กลุ่มดาวหางนี้จะพุ่งเข้าชนด้วยความเร็วสูง 60 ก.ม. ต่อวินาที หากไม่มีอะไรขวางอำนาจระเบิดมหาศาลไปรู้ไปเทียบกับอะไรได้ คราวที่สหภาพโซเวียต ในปี 1961 ได้ทดลองระเบิดไฮโดรเจน ในบรรยากาศนั้น ก็แค่ 58 เมกะตัน ชาวโลกกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยใจจดใจจ่อ เพราะอาจทำให้ระบบสุริยจักรวาล เกิดการเปลี่ยนแปลงใน
ทางที่ดี หรือว่าโลกเราอาจถึงกาลวิบัติก็ได้ก็เพราะดาวหางนี้แหละที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ได้ทำให้ไดโนเสาร์ต้องสูญพันธ์ไปเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว
เมื่อดาวหางพุ่งชนดาวพฤหัส จะเกิดอะไรขึ้น?
1. ดาวหางจะแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ขณะที่พุ่งไปถึงบรรยากาศของดาวพฤหัสตามแรงดึงดูด ซึ่งบริเวณจะอยู่เหนือเมฆประมาณ 240 ก.ม. ซาก และสะเก็ดดาวที่แตกกระจุยกระจายนี้จะพุ่งดิ่งลงมาประดุจห่าฝน
2. ถึงแม้ดาวที่แตกกระจายจะมีลักษณะเประบางแต่เมื่อถูกแรงดึงดูดด้วยความเร็ว 60 ก.ม. ต่อวินาที ความเร็วขนาดนี้จะทำให้เกิดคลื่นความร้อนที่มีแรงดึงดูดซึ่งทำให้ลื่นไหลตามกระแสคลื่น จนถลำลงเข้าไปในบรรยากาศของกลุ่มเมฆชั้นบนของดาวพฤหัสจะทำให้เศษดาวหางนี้ปะทะกันเองก่อให้เกิดประกายที่มองไม่เห็นได้จากเครื่องบินสำรวจกาลิเลโอ
3. จะเกิดการระเบิดอย่างวินาศสันตะโร เมื่อ คลื่น SHOCK WAVE จะหอบเอาเศษดาวหางพุ่งดิ่งจากชั้นบนสุดของเมฆลึกลงไป ประมาณ 24 ก.ม. และจากระยะทางนั้น ดาวหางกลุ่มนี้อาจจะระเบิด และแหลกเป็นจุณ เมื่อไปปะทะกับแรงดันของก๊าซไฮโดรเจน ในดาวพฤหัส ก๊าซร้อนที่เกิดจากแรงระเบิดจะแพระกระจายไปอย่างฉับพลัน เหมือนเกิดจากระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้เกิดกลุ่มไฟขนาดยักษ์ลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. สะเก็ดดาวหางกลุ่มนี้จะพุ่งลงไปสู่ชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสลึกถึง 300 ก.ม. ซึ่งเต็มไปด้วย ก๊าซและ ไอน้ำก็จะเกิดแรงดันทำให้เกิดเมฆเป็นรูปดอกเห็ดยักษ์พวยพุ่งสูงถึง 3,000 ก.ม. ด้วยแรงกดดันมหาศาลและความร้อนสูงจึงทำให้เศษดาวเหล่านี้เกิดระเบิด และปล่อยพลังงานมีค่าเท่ากับระเบิด ทีเอ็นที ขนาด 20 ล้านเมกะตัน เลยทีเดียว เมื่อ 2 เดือนที่แล้วเพื่อนผมคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวพุทธมาจากมะนิลาซื้อหนังสือมาฝากเล่มหนึ่งชื่อว่า "THE MESSAGES FO THE BLESSED VIRGIN MARY" สรุปความย่อๆ ว่า แม่พระได้ปรากฏมาพบเด็กชาย JUDIEL NIEVA เมื่อ
มีนาคม 1989 โดยมอบสาส์น สำคัญๆ ดังนี้ ให้มนุษย์กลับเนื้อกลับตัวเข้าหาพระ สวดมากๆ ทำพลีกรรมมากๆ เพื่อจะได้ชนะซาตานซึ่งกำลังครองโลก คนจำนวนมากหันไปนับถือรูปปั้นวัวทองคำ อันได้แก่ วัตถุนิยมโลกนิยม ส่วนพระเจ้าถูกปฏิเสธจนพระองค์ไม่มีสถานที่อันสมควรสำหรับพระองค์ในโลก วันที่ 11 มิถุนายน 1992 " ลูกรัก ถ้าโลกไม่เปลี่ยน เราจะส่งสัญญาณมาเตือน โลกจะสั่นสะเทือน ดวงอาทิตย์จะปรากฏตอนกลางคืน ปรากฏการณ์ประหลาดนี้จะเห็นกันทั่วโลก ทุกอย่างจะเกิดภายในครึ่งชั่วโมง "พายุใหญ่ น้ำท่วมภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว อากาศแปรปรวน กำลังเกิดขึ้นอยู่แล้ว
สันติภาพ...สันติภาพ...สันติภาพ แล้วในวันที่ 16-22 กรกฎาคมนี้ ดาวหางจะชนดาวพฤหัสจะมีผลกระทบอะไรบ้างบนโลก พวกเรากำลังรอคำตอบจากนักวิทยาศาสตร์ "โลกจะสั่นสะเทือน ดวงอาทิตย์จะหมุนพร้อมกับเสียงระเบิด ดวงจันทร์จะปรากฏตอนเช้าดวงอาทิตย์จะปรากฏตอนกลางคืน
ที่มา :
สนธิ สารธรรม. (2542).
เกาะติดวิกฤติโลกผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส. กรุงเทพฯ:
อินทรสุขสันต์, หน้า 468.
|
|