ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์
โครงการห้องสมุดโรงเรียนในฝัน

***ร่วมสร้างองค์ความรู้ สู่การศึกษาตลอดชีวิต วิทยพัฒนาเด็กไทยในท้องถิ่น***


000 หมวดเบ็ดเตล็ด
(Generalities)

100 หมวดปรัชญา
(Philosophy)

200 หมวดศาสนา
(Religion)

300 หมวดสังคมศาสตร์
(Social Sciences)

400 หมวดภาษาศาสตร์
(Language)

500 หมวดวิทยาศาสตร์
(Pure Sciences)

600 หมวดเทคโนโลยี
(Technology)

700 หมวดศิลปะ
(The Arts)

800 หมวดวรรณคดี
(Literature)

900 หมวดประวัติศาสตร์
(Geography & History)


Home

   

ความรู้เกี่ยวกับศาสนา

ศาสนา หมายถึง ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหนือธรรมชาติ ในหลักอภิปรัชญาว่าทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นมาดำรงอยู่และจะเป็นเช่นไรต่อไป มีหลักการ สถาบัน หรือประเพณี ที่เป็นที่เคารพโดยทั่วไป แล้วอาจกล่าวได้ว่า ศาสนาเป็นสิ่งที่ควบคุม และประสานความสัมพันธ์ของมนุษย์ ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข คือ ให้มีหลักการ ค่านิยม วัฒนธรรมร่วมกันและวิถีทางที่มนุษย์เลือกใช้ในการดำรงชีวิต ให้สังคมเป็นหนึ่งเดียวกัน มีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยหลักจริยธรรม คุณธรรม ศิลธรรมที่เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
สำหรับประเทศไทย ประชาชนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภ์ทุกศาสนา ศาสนาสำคัญ และมีคนนับถือมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์
พัฒนาการของศาสนา
มีความเชื่อว่าศาสนานั้นเกิดมาจากความต้องการเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ นับแต่อดีดมนุษย์จะสงสัยว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมต้องเกิดขึ้น จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ เปลี่ยนแปลงแล้วจะเกิดผลอะไรต่อมาอีก จนนำมาสู่การค้นหาแนวทางต่างๆเพื่อตอบปัญหาเหล่านี้ จนนำมาเป็นความเชื่อและเลื่อมใส ตัวอย่างเช่นศาสนาพุทธ เกิดจากเจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นความทุกข์ จึงทรงหาแนวทางให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ด้วยวิธีการต่างๆนานา จนทรงค้นพบอริยสัจ 4 ด้วยวิธีที่เรียกว่าทางสายกลาง เป็นการฝึกจิตด้วยสมาธิจนถึงซึ่งความรู้แจ้ง และความดับความทุกข์ ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับสิ้นซึ่งกิเลส ทรงสอนให้มนุษย์ ให้ทำบุญ รักษาศีล และภาวนา เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการพ้นทุกข์ของมหาชน อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาในปัจจุบัน คำอธิบายของการเกิดขึ้นและพัฒนาการของศาสนา สามารถแบ่งได้เป็นสามกลุ่ม
กลุ่มที่มองว่าศาสนาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
กลุ่มที่มองว่าศาสนาค่อย ๆ พัฒนาการไปสู่สภาวะแห่งความจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ
กลุ่มที่มองว่าศาสนาบางศาสนานั้นคือความจริงแท้
ศาสนาหลักๆ ที่มีอยู่ถ้ามองตามเป็หมายในเรื่ององค์สูงสุดจะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆคือ
1) ศาสนาที่ยึดถือองค์สูงสุดเป็นเป้าหมาย
2) ศาสนาที่ไม่ยึดถือองค์สูงสุดเป็นเป้าหมาย
ทั้งสองกลุ่มมีความเชื่อที่ไม่เหมือนกันคือกลุ่มแรกยอมรับว่าองค์สูงสุดมีอยู่จริง เช่นศาสนาคริสต์และอิสลามเรียกองค์สูงสุดว่าพระเจ้า ผู้นับถือมีเป้าหมายเพื่อการเข้าไปรวมอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า ส่วนกลุ่มหลังเช่นศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่ยอมรับการมีอยู่ของพระเจ้าหรือองค์สูงสุด แต่แต่เชื่อในการมีอยู่ของเทพเจ้า (เหล่าพรหมา)ซึ่งเป็นเทวดาชั้นสูงสุดเรียกว่าอรูปพรหม แต่ต่างกันตรงที่ผู้ที่นับถือศาสนาศาสนาพุทธไม่มีเป้าหมายเพื่อการไปรวมอยู่กับอรูปพรหม แต่สามารถไปเกิดเป็นอรูปพรหมได้ เพราะการรวมอยู่หรือไปเกิดเป็นอรูปพรหม เมื่อหมดเหตุปัจจัยก็ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ อันมีต่ำสุดคือนรก สูงสุดคืออรูปพรหม อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทางที่จะหลุดพ้นจากสังสารวัฏได้จึงมีทางเดียวเท่านั้นคือ นิพพาน
ประเภทศาสนา
ศาสนาในโลกถึงแม้จะมีมาก แต่ถ้าจัดเป็นประเภทก็ได้เป็น 3 ประเภท คือ
ธรรมชาตินิยม
ลัทธิเต๋า แบบธรรมชาตินิยม ไม่มีพระเจ้า จึงเป็นอเทวนิยม นับถือฟ้า(หรือเต๋า)
ลัทธิขงจื๊อ สอนให้คนมีความกตักญู นับถือบรรพบุรษเป็น "มนุษยนิยม"นับถือสวรรค์โดยไม่เชื่อว่ามนุษย์จะสูงส่งได้ดุจเทพ แต่ก็ไม่ควรให้จิตใจมนุษย์ตกต่ำดุจเดรัจฉาน
เทวนิยม
เชื่อว่ามีเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าเทพเจ้าทั้งหลาย หรือเรียกกันว่าพระเจ้า พระองค์เป็นผู้สร้างโลกและสรรพสิ่งและเชื่อกันว่าพระเจ้าอาจติดต่อมนุษย์ โดยผ่านศาสดาพยากรณ์หลายองค์ เช่น พระอัลเลาะห์ ทรงติดต่อกับท่านนบีมุฮัมหมัด พระยะโฮวาห์ ทรงติดต่อกับ ท่านโมเสส เป็นต้น ศาสนาประเภทนี้อาจแบ่งต่อไปอีก ตามจำนวนพระเจ้าที่นับถือ คือ
เอกเทวนิยม เชื่อว่า มีพระเจ้าสูงสุด เพียงพระองค์เดียว ได้แก่
ศาสนาคริสต์
ศาสนาอิสลาม
ศาสนายิว
ศาสนาซิกข์
ศาสนาบาไฮ
ทวิเทวนิยม เชื่อว่า มีพระเจ้าอยู่ 2 พระองค์ แบ่งเป็นเพศ ชายและหญิงได้แก่
ศาสนาโซโรอัสเตอร์
ศาสนามาณีกี (เป็นศาสนาที่ตายแล้ว)
พหุเทวนิยม เชื่อว่ามีพระเจ้าสูงสุดหลายพระองค์คือเชื่อว่ามีเทพเจ้าต่างๆอยู่มากมายสิงสถิตย์อยู่ตามธรรมชาตินั้นๆ ทั้งสามารถดลบันดาลตามประสงค์ของพระองค์นั้นได้
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ศาสนาชินโต
ศาสนากรีก (เป็นศาสนาที่ตายแล้ว)
อเทวนิยม
ศาสนาประเภทนี้ ไม่สนใจเรื่องพระเจ้า แต่สนใจในโลก และสรรพสิ่ง เชื่อว่ามนุษย์เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง ทุกสิ่งเป็นไปตามปัจจัย ศาสนาประเภทนี้ ได้แก่
ศาสนาพุทธ
ศาสนาเชน(มิใช่นิกายเซนของพุทธ )
ศาสนาในโลกปัจจุบัน
ศาสนาคริสต์
โรมันคาทอลิก
โปรเตสแตนต์
ออร์ทอดอกซ์
ศาสนาอิสลาม
สุหนี่
ชีอะห์
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ไศวะ
ไวษณพ
ศักติ
ศาสนาพุทธ
เถรวาท
มหายาน
วัชรยาน
ศาสนาซิกข์
นานักปันถิ
ขาลฺสา
นิลิมเล
ศาสนายิว
ออร์ทอดอกซ์ (ฟาริซี)
โปรเกรสซีฟ (ซัดดูคูส)
นักพรต (เอสเซเนส)
ศาสนาเชน
ทิคัมพร
เศวตัมพร
ศาสนาโซโรอัสเตอร์
กัทมิส
ชหันชหิส
ศาสนาบาไฮ
ลัทธิ
ชินโต
ขงจื๊อ
เต๋า
วูดู
พุทธตันตระ
ลัทธิหัวเหา
ลัทธิเก๋าได่
ลัทธิมาณีกี
ลัทธิโอมชินริเกียว
ลัทธิชอนโดเกียว
จำนวนผู้นับถือศาสนาและลัทธิต่างๆ
ศาสนาคริสต์: 2.1 พันล้านคน
ศาสนาอิสลาม: 1.5 พันล้านคน
ไม่นับถือศาสนา/นับถือสิ่งศักดิสิทธิ์: 1.1 พันล้านคน
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู: 900 ล้านคน
ลัทธิขงจื๊อ/ลัทธิเต๋า/นับถือบรรพบุรุษ: 394 ล้านคน
ศาสนาพุทธ: 376 ล้านคน
ศาสนานับถือผีของเผ่าตน: 300 ล้านคน
ศาสนาโยรูบา: 100 ล้านคน
ศาสนาซิกข์: 23 ล้านคน
ลัทธิจูเช (นับถือคิมอิลซุง): 19 ล้านคน
นับถือผี: 15 ล้านคน
ศาสนายิว: 14 ล้านคน
ศาสนาบาไฮ: 7 ล้านคน
ศาสนาเชน: 4.2 ล้านคน
ศาสนาชินโต: 4 ล้านคน
ลัทธิโจได: 4 ล้านคน
ศาสนาโซโรอัสเตอร์: 2.6 ล้านคน
ลัทธิเทนริเกียว: 2 ล้านคน
ลัทธิเพแกนใหม่: 1 ล้านคน
ลัทธิเอกนิยม: 8 แสนคน
ขบวนการราสตาฟาเรียน: 6 แสนคน

แหล่งที่มา

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2552). ศาสนา. ค้นเมื่อ มีนาคม 31, 2552, จาก

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0
%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2

 


Copyright
All copyright rights in the Dewey Decimal Classification system are owned by OCLC. Dewey, Dewey Decimal Classification, DDC and WebDewey are registered trademarks of OCLC
Revised:March 2009


Send comments to Chumpot@hotmail.com